ถอดบทเรียนจาก MOOC อันดับ 3 ของโลก
MOOC หรือ Massive Open Online Course คือคอร์สออนไลน์ที่มหาวิทยาลัยทั่วโลกกำลังสนใจกันมาก เพราะเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้เข้ามาเรียนได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาเรียนในมหาวิทยาลัย เป็นการเผยแพร่ความรู้และประชาสัมพันธ์อย่างดี
วันพฤหัสที่ 7 มีนาคม 2562 มีตัวแทนจากมหาวิทยาลัยชิงหัวหรือชิงหวา (Tsinghua University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนมาบรรยายเรื่อง MOOC และ Blended Learning ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผมจึงไม่พลาดโอกาสที่จะไปฟัง เพราะกำลังทำ MOOC ของตนเอง จึงสรุปสิ่งที่เรียนรู้จากการบรรยายช่วงเช้าในบทความนี้ครับ
MOOC ของมหาวิทยาลัยชิงหวา
ดร.ยูซึ่งเป็นผู้อำนวยการของ Online Education Office มหาวิทยาลัยชิงหวาเป็นผู้บรรยายในช่วงเช้า
มหาวิทยาลัยชิงหวาก่อตั้งในปีค.ศ. 1911 และเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ถ้ากล่าวถึง MOOC แล้ว คนส่วนใหญ่มักนึกถึง Coursera หรือ edX ซึ่งเป็น MOOC ที่คนรู้จักทั่วโลก มหาวิทยาลัยชิงหวาก็สนใจ MOOC เช่นกัน และทำ MOOC ของตนเองชื่อ XuetangX ในปีค.ศ. 2013
สถิติผู้เรียนของ MOOC ในปี 2018 สูงสุด 3 อันดับแรกคือ
อันดับ 1 Coursera มีผู้เรียน 37 ล้านคน
อันดับ 2 edX มีผู้เรียน 18 ล้านคน
อันดับ 3 XuetangX มีผู้เรียน 14 ล้านคน
ดังนั้น XuetangX ซึ่งเป็น MOOC ของมหาวิทยาลัยชิงหวาจึงมีผู้เรียนมากเป็นอันดับ 3 ของโลกครับ
กว่าจะเป็น XueTangX
ถึงแม้ว่า MOOC จะเป็นแนวคิดที่ดีเพียงใดก็ตาม แต่การชักชวนอาจารย์ให้ทำ MOOC ในช่วงเริ่มต้น ก็ไม่ง่ายนัก เพราะอาจารย์หลายคนยังไม่เห็นประโยชน์และคิดว่าเสียเวลา
ชิงหวาจึงใช้หลายวิธีในการจูงใจและช่วยเหลืออาจารย์ เช่น ลดภาระงานสอนให้อาจารย์ที่สอน MOOC , มีเจ้าหน้าที่ช่วยสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ , มีงบประมาณให้เต็มที่
ในที่สุด XuetangX ก็มี MOOC ประมาณ 1,700 คอร์ส ซึ่งผู้อ่านดูได้ที่เว็บไซต์ http://www.xuetangx.com/global
ดร.ยู เล่าว่า มีอาจารย์คนหนึ่งที่สอน MOOC กำลังยืนในรถไฟใต้ดินที่แน่นขนัด ปรากฎว่า มีคนหนึ่งลุกให้อาจารย์นั่ง บอกว่า “ผมเรียน MOOC กับอาจารย์ครับ” ทำให้อาจารย์ประทับใจมาก และปลื้มที่มีผู้เรียนจำตนเองได้
ตัวอย่างคอร์สที่สอนใน XuetangX
ตัวอย่างคอร์สใน XuetangX ที่ดร.ยูเล่า เช่น
- Relics in Chinese History ถ่ายทำในสถานที่ต่างๆ ของประเทศจีน ใช้เงินลงทุนมหาศาลในการถ่ายทำ ทำให้ผู้เรียนได้เห็นสถานที่จริง ไม่ใช่แค่เห็นในสไลด์เท่านั้น
- Core Technology of Big Data Platform ซึ่งร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญของ Alibaba
- Conversational English Skills วิชาสนทนาภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นคอร์สที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคอร์สหนึ่ง
และขณะนี้ กำลังมีการใช้ VR (Virtual Reality) มาร่วมกับ MOOC แล้ว
Rain Classroom : ห้องเรียนในสายฝน
Rain classroom คือวิธีการสอนของมหาวิทยาลัยชิงหวาที่นำการเรียนในห้องเรียนมารวมกับการเรียนออนไลน์ เรียกว่า Blended Learning
ถ้าดูรูปข้างบน ข้อมูลต่างๆ เก็บในก้อนเมฆหรือ cloud ส่วนสายฝนคือบทเรียนที่ส่งมาหาผู้เรียน
Rain classroom เป็นการใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว เช่น
- ไวไฟ
- สมาร์ตโฟนของผู้เรียน
- พาวเวอร์พอยต์
- แอป Wechat ซึ่งเป็นแอปยอดนิยมของคนจีน
เนื่องจากผู้เรียนเกือบทุกคนมีสมาร์ตโฟนอยู่แล้ว อาจารย์จะส่งบทเรียนหรือสไลด์พาวเวอร์พอยต์ให้ทาง WeChat ซึ่งเป็นพาวเวอร์พอยต์ที่ปรับขนาดมาให้เหมาะกับการอ่านในมือถือ เรียกว่า Vertical Slide
พาวเวอร์พอยต์ที่ปรับขนาดให้เหมาะกับการอ่านในมือถือเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยนึกถึงมาก่อน เพราะพาวเวอร์พอยต์ทั้งหมดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามแนวนอน ซึ่งเหมาะกับการอ่านบนจอคอมพิวเตอร์
แต่สมาร์ตโฟนเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง ดังนั้น การทำสไลด์แนวตั้งเพื่อให้อ่านในมือถือได้สะดวก จึงเป็นแนวคิดที่น่าลองทำครับ
เมื่อผู้เรียนได้รับสไลด์ทางมือถือแล้ว ก็อ่านสไลด์ล่วงหน้าก่อนเข้าเรียน ถ้าไม่เข้าใจสไลด์หน้าไหน ก็คลิก unclear ในสไลด์ที่ไม่เข้าใจ
Rain Classroom จึงทดสอบและวัดความเข้าใจของผู้เรียนได้ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่เฉพาะในเวลาสอบเท่านั้น
เชิญสมัครเป็นสมาชิกจดหมายข่าว “ไฟฉาย” ของผมที่จะส่องไอเดียน่าสนใจทุกวันที่ 1 และวันที่ 15 ของทุกเดือน เช่น แอป คอร์สออนไลน์ หนังสือ วิดีโอ บทความ เพจ ไฮไลท์จากหนังสือ เป็นต้น
สมัครเพื่ออ่านทางอีเมลได้อย่างสะดวกสบายได้ที่